วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคเหนือ


วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคเหนือ


 (ภาพการฟ้อนเล็บ วัฒนธรรมภาคเหนือ)

 เป็นวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะวัฒนธรรมของชาวล้านนาที่ยังคงยึดมั่นในขนบธรรมประเพณีของพระพุทธศาสนา ที่แสดงออกถึงมิตรไมตรีและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกน มีการสืบทอดมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน จึงถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญยิ่งที่คนคนท้องถิ่นในภาคเหนือยังรักษาไว้จนถึงปัจจุบัน ในที่นี้จะกล่าวถึงตัวอย่างวัฒนธรรมที่สำคัญ
1.ด้านอาหาร โดยตัวอย่างของวัฒนธรรมในด้านนี้ ได้แก่ ระเพณีเลี้ยงข้าวแลงขันโตกหรือกิ๋นข้าวแลงขันโตก เป็นประเพณีของชาวล้านนา ผู้ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดทางภาคเหนือตอนบนและใช้ภาษไทยเหนือเป็นภาพูด มีการตกแต่งสถานที่อย่างสวยงามมีอาหารภาคเหนือมากมายหลายชนิด เจ้าภาพเหรื่อจะแต่งกายแบบพื้นเมืองทั้งชายหญิง
                    งานเลี้ยงขันโตกจะเริ่มด้วยขบวนแห่นำขบวนขันโตกด้วยสาวงามช่างฟ้อน ตามมาด้วยคนหาบกระติบหลวง ขบวนแห่นี้จะผสมผสานกับเสียงดนตรีโห่ร้องแสดงความชื่นชมยินดี เมื่อมาถึงงานเลี้ยงแล้วก็จะนำกระติบหลวงไปวางไว้กลางงานแล้วนำข้าวนึ่งในกระติบแบ่งปันใส่กระติบเล็กๆแจกจ่ายไปตามโตกต่างๆ จนทั่วบริเวณงาน ซึ่งมีโตกใส่สำหรับกับข้าวเตรียมไว้ก่อนแล้ว อาหารที่เลี้ยงกันนั้นนอกจากจะมีข้าวนึ่งเป็นหลักแล้ว ก็มีกับข้าวแบบของชาวเหนือ คือ แกงฮังเล แกงอ่อม แกงแค ไส้อั่ว น้ำพริก อ่อง น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู ผักสด และของหวาน เช่น ขนมปาด ข้าวแต๋น เป็นต้น
2.ด้านศาสนาและลัทธิความเชื่อ  ตัวอย่างวัฒนธรรมในด้านนี้  ได้แก่ งานทำบุญทอดผ้าป่าแถว  งานทำบุญตานก๋วยสลากหรือ การทำบุญสลากภัต (ทานสลาก)  ประเพณีการสืบชะตา เป็นต้น
     1.  การทำบุญทอดผ้าป่าแถวจะกระทำกันในเขตตัวอำเภอและอำเภอรอบนอกของจังหวัดกำแพงเพชร  โดยกระทำพร้อมกันทุกวัดในคืนวันลอยกระทงหรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12  โดยชาวบ้านแต่ละครอบครัวเรือนจะจัดหากิ่งไม้  เทียนไข ผ้า ข้าวสาร อาหารแห้ง ผลไม้ และบริขารของใช้ต่าง ๆ พอตกกลางคืนเวลาราว 19.00 น.  ชาวบ้านจะนำองค์ผ้าป่าไปไว้ในลานวัด  จัดให้เป็นแนวเป็นระเบียบแล้วนำผ้าพาดบนกิ่งไม้  นำเครื่องไทยธรรมที่เตรียมไว้มาวางใต้กิ่งไม้พอถึงเวลามรรคนายกวัดจะป่าวร้องให้เจ้าของผ้าป่าไปจับสลากรายนามพระภิกษุ
     เมื่อได้นามพระภิกษุแล้วเจ้าของผ้าป่าจะเอามากลัดติดไว้กับผ้าที่ห้อยอยู่บนกิ่งไม้ของตน  และพากันหลบไปแอบอยู่ในเงามืดเฝ้ารอดูด้วยความสงบว่าพระภิกษุรูปใดจะมาชักผ้าป่าของตน  เมื่อพระภิกษุชักผ้าป่าเรียบร้อยแล้ว  พระภิกษุทุกรูปจะไปนั่งรวมกันแล้วให้ศีลเจริญพระพุทธมนต์  อวยพร  เมื่อเสร็จสิ้นเสียงพระสงฆ์  มหรสพต่าง ๆ  จะทำการแสดงทันที
     2.งานทำบุญตานก๋วยสลากหรือการทำบุญสลากภัต (ทานสลาก) จะทำในช่วงวันเพ็ญเดือน 12 (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12) ถึงเดือนเกี๋ยงดับ (วันแรม 15 ค่ำ เดือน 12) หรือราวเดือนตุลาคม – พฤศจิกายนของทุกปี  ชาวเหนือหรือชาวล้านนาไทยจะทำบุญตานก๋วยสลากหรือกิ๋นก๋วยสลาก
     โดยวันแรกแต่ละครอบครัวหรือคณะศรัทธาจะเตรียมงานต่าง ๆ หรือเรียกว่า วันดา”  ผู้หญิงจะไปจ่ายตลาดหาซื้อของ  ส่วนผู้ชายจะเหลาตอกสานก๋วยไว้หลาย ๆ  ใบจากนั้นนำมากรุด้วยใบตองหรือกระดาษปิดมัดก๋วยรวมกันเป็นมัดๆ สำหรับเป็นที่จับ  ตรงส่วนที่ราบไว้นี้ชาวบ้านจะเสียบไม้ไผ่และสอดเงินไว้เป็นเสมือนยอด
     ก๋วยสลากมี 2 ชนิด คือ ก๋วยเล็กจะมียอดเงินไม่มากนักใช้เพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้ผีปู่ย่าตายายที่ล่วงลับหรืออุทิศส่วนกุศลเพื่อตนเองในภายภาคหน้า  ส่วนอีกชนิดหนึ่งเป็นก๋วยใหญ่  เรียกว่าสลากโจ้ก (สลากโชค)  ส่วนมากจะจัดทำขึ้น  เพื่อให้อานิสงส์เกิดแก่ตนเอง  ในภพหน้าจะได้มีกินมีใช้  มั่งมีศรีสุขเหมือนในชาตินี้
     งานทำบุญตานก๋วยสลากหรืองานบุญสลากภัตมีคติสอนใจให้คนเรารู้จักรักใคร่สามัคคีกัน  เกิดความปรองดองในหมู่ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน  ขณะเดียวกันในทางคติธรรมจะมีคติสอนใจพระสงฆ์และสามเณรมิให้ยึดคติในลาภลักการะทั้งหลาย  โดยเฉพาะก๋วยสลากที่ญาติโยมนำมาถวายนั้นอาจมีเล็กบ้างใหญ่บ้าง  มีเงินมากน้อยต่างกัน การจับสลากจึงยังผลให้พระสงฆ์รู้จักตัดกิเลส  การทำบุญโดยไม่เจาะจงพระผู้รับสิ่งบริจาคนี้  ถือเป็นการทำความดีเพื่อความดีจริง ๆ ตามอุดมการณ์  เพื่อความสุขของจิตใจโดยแท้
    3.งานประเพณีการสืบชะตาหรือการต่ออายุได้รับอิทธิพลจากพระพุทธศาสนากระทำขึ้นเพื่อยืดชีวิตด้วยการทำพิธีเพื่อให้เกิดพลังรอดพ้นความตายได้  เป็นประเพณีที่คนล้านนานิยมกระทำจนถึงทุกวันนี้  ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ประเพณีการสืบชะตาคน  ประเพณีการสืบชะตาบ้าน  และสิบชะตาเมือง
     การสืบชะตาคนจะกระทำขึ้นเมื่อเกิดการเจ็บป่วย  หรือหมอดูทายทักว่าชะตาไม่ดีชะตาขาด  ควรจะทำพิธีสะเดาะเคราะห์และสืบชะตาต่ออายุเสีย  จะทำให้แคล้วคลาดจากโรคภัยและอยู่ด้วยความสวัสดีต่อไป
ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับการสืบชะตาบ้านและการสืบชะตาเมืองอันเป็นอุบายให้ญาติพี่น้องและผู้เกี่ยวช้องมารวมกัน เพื่อให้กำลังใจและปรึกษาหารือในการแก้ปัญหาบ้านปัญหาเมืองให้สำเร็จลุล่วงไป
     ตัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้นเป็นวัฒนธรรมที่ผู้คนทางภาคเหนือของไทย  ได้กระทำสืบทอดกันมานาน  นอกจากนี้  ยังมีอีกมากมาย  เช่น  ปอยส่างลองหรืองานบวชลูกแก้วเป็นสามเณรในพุทธศาสนาของชาวไทยใหญ่ในจังหวัดแม่อ่องสอน  ปอยหลวงหรืองานมหกรรมการทำบุญของล้านนา  งานสมโภชพระพุทธชินราชที่จังหวัดพิษณุโลกงานทำขวัญผึ้งของชาวอำเภอคีรีมาศ  จังหวัดสุโขทัย  งานแข่งเรือที่เป็นตำนานกีฬาของชาวบ้านลุ่มน้ำในจังหวัดพิจิตร พิษณุโลก  และน่าน  งานอุ้มพระดำน้ำเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของชาวจังหวัดเพชรบูรณ์  งานสู่ขวัญเพื่อสร้างพลังใจของชาวบ้าน  ซึ่งเป็นประเพณีธรรมเนียมไทยทั่วทุกภาค  การตีเหล็กน้ำพี้ของตำบลน้ำพี้  อำเภอทองแสนขัน  จังหวัดอุตรดิตถ์  ประเพณีสงเคราะห์ของชาวล้านนา  พิธีเลี้ยงผีปู่ย่าซึ่งเป็นผีคุ้มครองจริยธรรมของสตรีล้านนา เป็นต้น




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น